AEON MALL แหล่งชอปปิงที่เป็นมิตรกับเด็ก มีบริการมากมายสำหรับเด็ก ทั้งสนามเด็กเล่นและห้องให้นมบุตร

8 แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีในฟุกุโอกะ 2024 (Fukuoka)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

ชมใบไม้เปลี่ยนสีในฟุกุโอกะ ภูมิภาคคิวชู เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่นที่มีทั้งของอร่อย และสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ เพียบ

บทความโดย

นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก

more

ฟุกุโอกะ (Fukuoka) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคคิวชู ทางใต้ของญี่ปุ่น โด่งดังเรื่องธรรมชาติงดงาม ผู้คนใจดี และอาหารรสเลิศ

ถ้าได้มาฟุกุโอกะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก็ต้องเพิ่มการไปชมใบไม้เปลี่ยนสีไว้ในแผนเที่ยวด้วยอีกอย่างนะครับ MATCHA เลยขอมาแนะนำที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ น่าไปในฟุกุโอกะให้ดูกัน

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีในฟุกุโอกะจะอยู่ราวๆ กลางเดือน - ปลายเดือนพฤศจิกายน (บางแห่งก็ถึงต้นเดือนธันวาคม) แต่ก็อาจเร็วขึ้นหรือช้าลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ ครับ

สารบัญ

สถานที่ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
1. สวนไมซุรุ (Maizuru Park) กลาง - ปลายพฤศจิกายน
2. สวนยูเซ็นเท (Yusentei Park) กลางพฤศจิกายน - กลางธันวาคม
3. วัดไรซัน เซ็นเนียวจิ ไดฮิโออิน (Raizan Sennyoji Daihioin Temple) ต้น - ปลายพฤศจิกายน
4. ปราสาทอากิสึกิ (Akizuki Castle Ruins) ปลายพฤศจิกายน - ต้นธันวาคม
5. ศาลเจ้าคามาโดะ (Kamado Shrine) กลาง - ปลายพฤศจิกายน
6. ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle) ต้น - ปลายพฤศจิกายน
7. ภูเขาฮิโกะ (Mt. Hiko) ต้น - กลางพฤศจิกายน
8. สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ (Shiranoe Botanical Garden) ปลายพฤศจิกายน - ต้นธันวาคม

1. สวนไมซุรุ (Maizuru Park) เดินทางสะดวก มาจากฮากาตะก็ได้

Picture courtesy of Fukuoka City

สวนไมซุรุ (Maizuru Park) เป็นสวนที่มีร่องรอยปราสาทฟุกุโอกะที่ถูกสร้างขึ้นในยุคเอโดะเป็นศูนย์กลางของสวน ตอนนี้ก็ยังหลงเหลือพวกฐานปราสาทหินและหอสังเหตุการณ์ให้ได้ไปสัมผัสบรรยากาศในอดีต ภายในสวนเป็นที่ชมซากุระบานที่มีชื่อเสียงมาก แต่บอกเลยว่าใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยไม่แพ้กัน

Picture courtesy of Fukuoka City

อีกจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ คือสวนญี่ปุ่นที่อยู่ด้านในสวนโอโฮริ (Ohori Park) ด้านข้างสวนไมซุรุนี่เอง ทั้งสองแห่งนี้สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินจากเมืองฟุกุโอกะหรือเมืองฮากาตะก็ได้ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น

ช่วงเวลาเปลี่ยนสีของปีก่อนๆ : กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟใต้ดิน Akasaka หรือสถานี Ohorikoen ประมาณ 8 นาที
เว็บไซต์ : http://www.midorimachi.jp/maiduru/ (ภาษาญี่ปุ่น)
แผ่นพับภาษาอังกฤษ : https://www.midorimachi.jp/maiduru/file/panf_en.pdf

↑ กลับไปที่สารบัญ

2. สวนยูเซ็นเท (Yusentei Park) ใบไม้เปลี่ยนสีในสวนญี่ปุ่น

Picture courtesy of Fukuoka City

สวนยูเซ็นเท (Yusentei Park) เป็นส่วนหนึ่งของบ้านพักตากอากาศของผู้ครองแคว้นหรือไดเมียวที่ปกครองละแวกนี้ในอดีต ตอนนี้เปิดเป็นสวนสาธารณะให้เข้าชมภายในได้ มีทั้งน้ำตก สระน้ำขนาดใหญ่และห้องชา เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบสวนญี่ปุ่น

Picture courtesy of Fukuoka City

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีเด่นๆ คือวิวจากห้องโถงใหญ่ และสีสันของใบไม้ที่สะท้อนอยู่ในสระน้ำ

ช่วงเวลาเปลี่ยนสีของปีก่อนๆ : กลางเดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนธันวาคม
การเดินทาง : จากท่ารถบัสฮากาตะ (Hakata Bus Terminal) ข้างสถานีรถไฟฮากาตะ ขึ้นรถบัสของบริษัท Nishitetsu Bus สาย 12 ไปลงที่ป้าย Yusentei (45 นาที 310 เยน) แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์ : https://yusentei.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)

↑ กลับไปที่สารบัญ

3. วัดไรซัน เซ็นเนียวจิ ไดฮิโออิน (Raizan Sennyoji Daihioin Temple) ต้นเมเปิลยักษ์อายุกว่า 400 ปี

Picture courtesy of Raizan Sennyoji Daihioin Temple

วัดไรซัน เซ็นเนียวจิ ไดฮิโออิน (Raizan Sennyoji Daihioin Temple) เป็นแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังเพราะสามารถชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีจากต้นเมเปิลยักษ์อายุกว่า 400 ปี ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติผสานกับต้นไม้อื่นๆ อีกกว่า 200 ต้น ภายในสวนชินจิที่ตั้งอยู่ด้านในมีต้นจันทน์ขาว ซึ่งเป็นไม้หอมที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติอยู่ด้วย

ระหว่างวันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน สามารถเข้ามาชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ในราคาเพียง 100 เยนเท่านั้น หรือจะเลือกเข้าชมด้านในอุโบสถ ค่าเข้า 400 เยน เพื่อไปชมสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติก็ได้

ช่วงเวลาเปลี่ยนสีของปีก่อนๆ : ต้นเดือน - กลางเดือนพฤศจิกายน
ที่อยู่ : 626 Raizan, Itoshima, Fukuoka Google Maps
การเดินทาง : จากหน้าสถานี JR Chikuzen-Maebaru นั่งรถบัสของ Itoshima City Community Bus ไปลงที่ป้าย Raizan Kannon Mae (20 นาที 200 เยน) เดินประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์ : http://www.sennyoji.or.jp/

↑ กลับไปที่สารบัญ

4. ร่องรอยซากปราสาทอากิสึกิ (Akizuki Castle Ruins) ท่ามกลางขุนเขา

Picture courtesy of Asakura Tourism Association

อากิสึกิ (Akizuki) เป็นเมืองรอบปราสาทอันเก่าแก่ ได้รับการเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ลิตเติ้ลเกียวโต แห่งจิคุเซ็น" (*1) เป็นที่ราบแอ่งกระทะที่ความสูง 860 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล รายล้อมด้วยภูเขาสามด้าน ถึงตอนนี้อาคารของปราสาทจะไม่มีแล้วแล้ว แต่ก็ยังมีฐานหินและประตูหลงเหลืออยู่

หนึ่งในนั้นคือประตูคุโระมง ประตูหลักของปราสาท สีสันสดใสของใบไม้เปลี่ยนสีตัดกับสีเข้มทึบของประตูดูสวยงามมาก

*1 : จิคุเซ็น ... ชื่อเก่าของจังหวัดฟุกุโอกะ

ช่วงเวลาเปลี่ยนสีของปีก่อนๆ : ปลายเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
การเดินทาง : นั่งรถไฟของ Amagi Railway มาลงที่สถานี Amagi ต่อรถบัสสายไหนก็ได้ที่ไป Akizuki ลงที่ป้าย Hakubutsukan Mae (20 นาที 360 เยน) เดินต่อประมาณ 10 นาทีจะถึงปราตูคุโระมง
เว็บไซต์ : https://www.crossroadfukuoka.jp/event/?mode=detail&isSpot=1&id=4000000000808 (ภาษาญี่ปุ่น)

↑ กลับไปที่สารบัญ

5. ศาลเจ้าคามาโดะ (Kamado Shrine) ไหว้เทพเจ้าผูกสัมพันธ์

Picture courtesy of Kamado Shrine

ศาลเจ้าคามาโดะ (Kamado Shrine) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาโฮมันซัง (Mt. Homanzan) ซึ่งได้รับการเคารพบูชาในฐานะภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตของเทพเจ้า ศาลเจ้านี้โด่งดังเรื่องเอ็นมุซุบิ (*2) หรือการผูกสัมพันธ์ มีต้นเมเปิลและต้นแปะก๊วยกว่า 300 ต้นที่จะมาแต่งแต้มสีสันในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

ถนนที่ทอดยาวไปสู่ศาลเจ้าจะกลายเป็นอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีให้ได้เดินชมความงามของใบไม้ที่ไล่สีสันไปมา ในช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะมีการไลท์อัพประดับไฟตอนกลางคืนด้วย (กลาง - ปลายเดือนพฤศจิกายน)

ในการเดินทางไปศาลเจ้าคามาโดะ จะต้องไปลงที่สถานีดาไซฟุ (Dazaifu) ซึ่งมีศาลเจ้าใหญ่ของฟุกุโอกะ ดาไซฟุเท็นมังกู (Dazaifu Tenmangu) อยู่ไม่ไกล แนะนำให้เผื่อเวลาแล้วแวะไปชมทั้งสองที่เลย

*เอ็นมุซุบิ ... การผูกสัมพันธ์โดยเทพเจ้า ไม่ว่าจะระหว่างบุคคล ชายหญิง ครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่สิ่งของ จนถึงความสุขและโชคลาภ

ช่วงเวลาเปลี่ยนสีของปีก่อนๆ : กลางเดือน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Nishitetsu ไปลงที่สถานี Dazaifu จากนั้นนั่งรถบัส Community Bus สาย Mahoroba ไปลงที่ป้าย Uchiyama (10 นาที 100 เยน) ลงที่ป้าย Uchiyama
เว็บไซต์ : http://kamadojinja.or.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)


↑ กลับไปที่สารบัญ

6. ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle) ใบไม้แดงและปราสาท

福岡

Picture courtesy of Kokura Castle

ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle) ปราสาทชื่อดังของคิตะคิวชู ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1602 แต่อาคารเท็นชุคาคุที่เห็นนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1959 มีรูปแบบอาคารที่แปลกกว่าที่อื่นๆ เพราะพื้นที่ชั้น 5 มีความกว้างกว่าชั้น 4 เรียกวิธีการสร้างนี้ว่า คาระสึคุริ

*เท็นชุคาคุ ... เป็นอาคารที่สูงที่สุดภายในปราสาท ใช้เพื่อสอดส่องดูลาดเลาเหมือนเป็นหอคอยสังเกตุการณ์ ด้วยความที่อาคารนี้มักจะสูงใหญ่เป็นจุดเด่นที่สุด เราจึงเข้าใจว่านี่คือตัวปราสาท แต่ในญี่ปุ่นคำว่าปราสาทจะหมายรวมทุกอย่างที่อยู่ในอาณาบริเวณของกำแพงปราสาท

เป็นจุดชมซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ และชมใบต้นแปะก๊วยเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อเดือนเมษายน 2019 เพิ่งเปิดส่วนนิทรรศการใหม่และมีลิฟต์บริการระหว่างชั้น 1 - 5

ช่วงเวลาเปลี่ยนสีของปีก่อนๆ : ต้นเดือน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : เดินจากสถานี JR Kokura ประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์ : http://www.kokura-castle.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)


↑ กลับไปที่สารบัญ

7. ภูเขาฮิโกะ (Mt. Hiko) สถานฝึกตนท่ามกลางใบไม้แดง

Picture courtesy of Soeda Town Revitalization Department, Tourism Division

ภูเขาฮิโกะ (Mt. Hiko) เป็นเขาที่มักมีคนเดินทางไปฝึกตนเป็นอันดับต้นๆ ของคิวชูตั้งแต่อดีต ด้านบนยังมีสถานที่ที่เหล่านักพรตเคยใช้เป็นที่พำนักให้เห็นด้วย

เมื่อเข้าฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะค่อยๆ เปลี่ยนสีจากยอดเขา ไล่ลงมาถึงเชิงเขา ลองค่อยๆ เดินเล่นไปตามทางเดินสู่ศาลเจ้าฮิโกะจิงกูบนเขาได้ครับ หรือไม่ก็ไปนั่งสโลปคาร์ (เคเบิลคาร์) สำหรับขึ้นไปสู่ศาลเจ้า ระหว่างนั่งก็ชมวิวไปด้วยได้แบบไม่เหนื่อย

ช่วงเวลาเปลี่ยนสีของปีก่อนๆ : ต้นเดือน - กลางเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : จากสถานี Soeda นั่งรถบัส Soeda City Bus ไปลงที่ป้าย Donotorii (30 นาที 300 เยน) เดินประมาณ 5 นาทีจะถึงสถานีโรปคาร์ (เคเบิลคาร์) Saiwai นั่งไปลงที่สถานี Kami (20 นาที) จากนั้นเดินอีกครู่เดียวก็จะถึงศาลเจ้า ตั๋วโรปคาร์ไป-กลับระหว่างสถานี Saiwai - Kami ผู้ใหญ่ 830 เยน เด็ก 400 เยน จะต้องเปลี่ยนขบวนรถที่สถานี Hana กลางทางด้วย
เว็บไซต์ : http://hikosanjingu.or.jp/

↑ กลับไปที่สารบัญ

8. สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ (Shiranoe Botanical Garden)

Picture courtesy of Shiranoe Botanical Park

สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ (Shiranoe Botanical Garden) มีพื้นที่กว้างขวางให้ได้เดินชมความงามของธรรมชาติทั้ง 4 ฤดู สามารถมาชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือน

จุดชมใบไม้แดงเด่นๆ ได้แก่ Iriguchi hiroba ตรงทางเข้า, Komorebi no ro ที่มีต้นเมเปิลกว่า 800 ต้น และ Rakuyo no mori ที่มีต้นเมเปิลอิโรฮะโมมิจิขนาดใหญ่ที่ถูกปลูกเมื่อ 50 ปีก่อน

มีร้านน้ำชาในสวนให้นั่งพักผ่อนพร้อมสั่งขนมเซ็นไซ (ถั่วแดงกวนหหยาบต้มใส่โมจิ) มาทานหรือสั่งเหล้าหวานอามะซาเกะมาดื่ม ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้ดีเลย

ช่วงเวลาเปลี่ยนสีของปีก่อนๆ : ปลายเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
การเดินทาง : จากหน้าสถานีรถไฟ JR Mojiko นั่งรถบัสของ Nishi Tetsu สาย 14 ไปลงที่ป้าย Shiranoe ni chome (20 นาที 290 เยน) เดินประมาณ 2 นาที
เว็บไซต์ : http://www.shiranoe.com/index.html

↑ กลับไปที่สารบัญ

ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ฟุกุโอกะ คิวชู

ฟุกุโอกะ เป็นแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สามารถดื่มด่ำกับช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงในหมู่เกาะญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่ นอกจากสถานที่ที่ยกมาแนะนำแล้ว ยังมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอื่นๆ อีกเพียบ ลองแวะมาชมใบไม้เปลี่ยนสีในฟุกุโอกแะแล้วตอนเย็นแวะไปหาของอร่อยๆ ทานที่ร้านรถเข็นในเมืองกัน

บทความโดย

MATCHA

นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก

more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง